4 อาชีพเสี่ยง "โรคผิวหนังจากสารเคมี"

โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ เผยผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และอาชีพเกษตรกรเสี่ยงโรคผิวหนังที่เกิดจากสารเคมี แนะสวมอุปกรณ์ป้องกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัส หากมีอาการระคายเคือง หรือผดผื่นให้รีบไปพบแพทย์

 โรคผิวหนัง จากสารเคมี

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคผิวหนังที่เกิดจากสารเคมี เป็นโรคที่พบบ่อยมากในกลุ่มผู้ที่ทำงานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้วัสดุและสารเคมีที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังอย่างแพร่หลาย มีการใช้งานที่ไม่เหมาะสม หรือหากสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรงโดยไม่มีเครื่องป้องกัน จะทำให้เกิดการระคายเคืองเกิดผื่นคันภูมิแพ้ที่ผิวหนัง และอาจเป็นโรคผิวหนังได้

อาชีพเสี่ยงโรคผิวหนังจากสารเคมี

อาชีพที่มีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังจากสารเคมีได้แก่

1. คนงานก่อสร้างที่ผสมปูนซีเมนต์
   
2. คนงานในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับโลหะ เครื่องหนัง ยางสีย้อมผ้า กาวพลาสติก เส้นใยแก้ว สีพ่น รวมทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเครื่อง
   
3. คนที่ต้องทำงานสัมผัสกับอุปกรณ์ที่ทำจากโลหะชุบนิกเกิล งานอุตสาหกรรมทำเครื่องหนัง ดอกไม้พลาสติก
   
4. เกษตรกรที่ต้องใช้ปุ๋ยสารกำจัดแมลงศัตรูพืช                      ที่มา:Sanook.com

ระทึก! สารเคมีรั่วกรุงเทพกรีฑา-เร่งตรวจสอบ

เกิดเหตุระทึก! สารเคมีไม่ทราบชนิด รั่วไหล บริเวณ ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 เจ้าหน้าเร่งตรวจสอบ

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบสารเคมีถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ บริเวณหน้า บริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ตรงข้ามซอยกรุงเทพกรีฑา 35 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง ดับเพลิงหัวหมาก และห้วยขวางรุดที่เกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องตรวจวัดสารเคมีเพื่อตรวจสอบ

พบเป็นสารเคมีรั่วไหลออกมากจากบริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ลงไปที่บริเวณบ่อระบายน้ำด้านหน้าบริษัทจำนวน 3 บ่อ ทำให้น้ำในบ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ลักษณะของน้ำเป็นสีชมพู และบ่อที่ 3 ลักษณะเป็นสีดำมีคราบน้ำมันปะปน

ที่มา:Sanook.com

ระทึก! สารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานหนีตายอลหม่าน

เกิดเหตุสารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานวิ่งหนีตาย เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุเอาไว้ได้ทัน จากเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

เวลา 11.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรมว่า มีเหตุสารเคมีรั่วไหล บริษัทไทยเมกิ 2012 จำกัด เลขที่ 700/676 ม.7 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี  มีพนักงานจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบทีเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานเคลือบโลหะที่แท็งก์เก็บสารเคมีภายในโรงงาน มีสารสีเหลืองมีกลิ่นเหม็น พนักงานจำนวนกว่า 130 คน วิ่งหนีตายออกมานอกโรงงาน บางรายมีที่สูบดมเข้าไปมีอาการหน้ามืดเวียนหัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

ที่มา:Sanook.com

ผลตรวจชี้! “คิม จองนัม” ถูกสังหารด้วยสารเคมีทำลายประสาท “วีเอ็กซ์”

วันที่ 24 ก.พ. 60 — สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) เปิดเผยว่า สารเคมีที่ใช้ลอบสังหาร นายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของ นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ถูกระบุแล้วคือ สารเคมีทำลายประสาท ที่มีชื่อว่า สารวีเอ็กซ์ เป็นของเหลวไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีความเป็นพิษมากกว่าชาริน อีกทั้งสหประชาชาติยังจัดให้สารพิษชนิดนี้เป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงอีกด้วย โดยมีการตรวจพบสารวีเอ็กซ์บนใบหน้าของนายจองนัม แม้ว่าทางมาเลเซียจะไม่ได้กล่าวตรง ๆ ว่า เกาหลีเหนือเป็นผู้ลงมือสังหารนายจองนัม แต่ก็กล่าวว่า เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการสังหารอย่างชัดเจน ทั้งนี้ นายจองนัมถูกลอบสังหารที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จากการที่มีหญิง 2 คน ป้ายสารพิษบนหน้าของเขา และตอนนี้ ร่างของนายจองนัมยังคงถูกเก็บอยู่ที่ห้องดับจิตของโรงพยาบาลในมาเลเซีย

ที่มา:Sanook.com

สารเคมีรั่วที่บ้านฉาง

เหตุการณ์สารเคมีรั่วเป็นกลิ่นเหม็นรุนแรงทำให้ชุมชนในเขตอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ต้องอพยพออกจากพื้นที่ (ในวันที่ 7 และ 9 มิถุนายน 2557) และเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ภายใน บริษัท ผลิตปิโตรเคมี IRPC ที่ตั้งอยู่ ณ ตำบลเชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง กลายเป็นอุบัติภัยสารเคมีร้ายแรงที่ต้องจารึกลงในบัญชีรายชื่ออันยาวเหยียดของอุบัติภัยทางอุตสาหกรรมจากการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกหรืออีสเทอร์นซีบอร์ดอีกครั้งหนึ่ง

อุบัติภัยทางอุตสาหกรรมสองเหตุการณ์นี้มีความแตกต่างในแง่ที่ว่า ในเหตุการณ์แรก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการนิคมอุตสาหกรรมยังไม่สามารถหาต้นตอของกลิ่นสารเคมีอันรุนแรงที่ทำให้ชาวบ้านและคนงานต้องล้มป่วยและจำต้องอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย ส่วนในเหตุการณ์หลัง เรารู้ชื่อและทำเลที่ตั้งของการเกิดอุบัติภัยจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้

ความเหมือนกันของเหตุการณ์ทั้งสองคือ เราไม่ค่อยพบการรายงานข่าวในสื่อกระแสหลักมากนัก โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่บริษัทผลิตปิโตรเคมี IRPC นอกเหนือไปจากการชี้แจงของหน่วยงานและบริษัทถึงที่มาที่ไปของการเกิดเหตุและภาระรับผิด (liability) ที่ควรจะเป็นจากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชนและการปนเปื้อนมลพิษในสิ่งแวดล้อม

ที่มา:Greenpeace

สารเคมีรั่วไหลในสระว่ายน้ำรัฐนอร์ทแคโรไลนา

สารเคมีรั่วไหลในห้องควบคุมปั๊มสระว่ายน้ำขององค์กรเยาวชนคริสเตียน หรือ YMCA ในเมืองเดอแรม รัฐนอร์ทแคโลไรนา สหรัฐอเมริกาป็นเหตุให้มีเด็ก 40 คน และผู้ใหญ่อีก 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการหายใจไม่ออก  เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายหลังพบว่า สารเคมีดังกล่าวคือไฮโปคอไรต์ ที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นในสระว่ายน้ำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสระได้กลิ่นสารเคมีมาจากห้องควบคุมปั๊มของสระว่ายน้ำ

ที่มา:springnews

เกิดเหตุสารเคมีระเบิดในสวนลำไย

   ร่องรอยการระเบิดจากถุงที่บรรจุสารโพแทสเซียมคลอเรต ซึ่งใช้สำหรับเร่งดอกของต้นลำไย แรงระเบิดทำให้ นายคมสัน ศรีไพร อายุ 62 ปี เจ้าของสวนลำไย และลูกจ้างอีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ทรัพย์สินที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย คาดว่า อาจจะมีใครสูบบุหรี่ในขณะที่ผสมสารโพแทสเซียมคลอเรต และประกายไฟจากบุหรี่อาจจะร่วงลงไป จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้นสำหรับสารโพแทสเซียมคลอเรต เป็นสารที่ทำให้ลำไยออกดอกโดยไม่ต้องพึ่งความหนาวเย็น ทำให้การผลิตลำไยนอกฤดูประสบความสำเร็จ แต่ถูกกำหนดให้เป็นวัตถุอันตรายทางการเกษตร ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ.2556

         เนื่องจากโพแทสเซียมคลอเรต ช่วยให้ไฟติด เป็นสารเติมออกซิเจน (Oxidizing agent) (ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำหัวไม้ขีดไฟ พลุดินปืน วัตถุระเบิดด้วย) จึงทำปฏิกิริยารุนแรงและสามารถเกิดระเบิดได้เอง เมื่ออุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือด

ที่มา:Ch7

ญี่ปุ่นถกป้องกันความปลอดภัย-พลังงานนิวเคลียร์

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ในวันนี้ (15 ธ.ค.) ประเทศญี่ปุ่น จัดการประชุมระหว่างประเทศขึ้น เนื่องจากมีการหารือวิธีการป้องกันความปลอดภัยในเรื่องนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ยังคงเพ่งเล็งหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความปลอดภัยของนิวเคลียร์ทั่วโลก หลังจากหายนะจากนิวเคลียร์ และภัยพิบัติสึนามิ ในฟุกุชิมะ(Fukushima) ระยะเวลาในการประชุมทั้งหมด 3 วัน โดยได้มีประธานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น และสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) นอกจากนี้ ยังเป็นการประชุมร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ ในระดับรัฐบาลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านป้องกันอุบัติเหตุจากภัยพิบัติด้วย ประเด็นหลักในการประชุมครั้งนี้ เป็นเรื่องของนิวเคลียร์ และพรรคการเมืองของญี่ปุ่น หลายพรรคได้ช่วยกันทำงาน ในการขจัดพลังงานของนิวเคลียร์ แต่อย่างไรก็ตาม พลังงานนิวเคลียร์ ยังคงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในหลายๆ ประเทศดังนั้น การจัดประชุมจึงคำนึงถึงวิธีการป้องกันและเน้นความสำคัญที่จะช่วยเหลือประเทศสมาชิก IAEA ถึงความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และยังเพิ่มประสิทธิภาพตามกฎระเบียบด้วย

ที่มา:Sanook.com

หุ้นเทปโกดันเลิกผลิตพลังงานนิวเคลียร์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แหล่งข่าวในรัฐบาลของ นายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่น จะยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายใน 30 ปี ตามนโยบายใหม่ของรัฐบาล เนื่องจากกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ หลังเกิดสึนามิถล่ม เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนรายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีโนดะ จะประกาศการตัดสินใจปิดใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อย่างถาวร ในช่วงทศวรรษ หลังปี พ.ศ.2573 ทำให้ญี่ปุ่นจะมีสภาพเหมือนกับเยอรมนี ที่ประกาศจะออกห่างจากพลังงานนิวเคลียร์ ภายในปี 2565      

ที่มา:.Sanook.com

ญี่ปุ่นประกาศเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์ใน30ปี

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แหล่งข่าวในรัฐบาลของ นายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่น จะยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายใน 30 ปี ตามนโยบายใหม่ของรัฐบาล เนื่องจากกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ หลังเกิดสึนามิถล่ม เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนรายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีโนดะ จะประกาศการตัดสินใจปิดใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อย่างถาวร ในช่วงทศวรรษ หลังปี พ.ศ.2573 ทำให้ญี่ปุ่นจะมีสภาพเหมือนกับเยอรมนี ที่ประกาศจะออกห่างจากพลังงานนิวเคลียร์ ภายในปี 2565      

ที่มา:Sanook.com

US-เวียดนาม จ่อลงนามพลังงานนิวเคลียร์

สหรัฐ - เวียดนาม เตรียมพร้อมบรรลุสัญญาลงนามในภาคพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกัน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค.) นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เตรียมลงนามกับประเทศการค้าแหล่งใหม่ อย่าง เวียดนาม ภายใต้สัญญาการลงนาม ที่เรียกว่า "สัญญา 123" โดยการลงนามครั้งนี้ เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ที่ประเทศบรูไน สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม พร้อมให้ความร่วมมือในภาคพลังงงานนิวเคลียร์ เพื่อการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของพลเรือน 

นอกจากนี้ การลงนามครั้งนี้ ยังช่วยให้ตลาดการค้าเสรีระหว่างสหรัฐ และเวียดนาม ขยายวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย ชาวอเมริกันมุ่งมั่นที่จะผลิตวัตถุดิบสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ โดยผ่านกระบวนการสำคัญที่เวียดนาม

 ที่มา:Sanook.com